จากกรณีเครื่องบินแบบ Fokker F27 ของกองทัพเรือล้อหน้าไม่กางและต้องร่อนลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานนราธิวาส ซึ่งนักบินสามารถนำเครื่องร่อนลงจอดได้อย่างนุ่มนวลและรักษาชีวิตและทรัพย์สินของทางราชการไว้ได้ จนได้รับคำชื่นชมจำนวนมากนั้น
TAF เคยย้ำว่า กองทัพเรือน่าจะให้ความสำคัญกับการจัดหาเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลทดแทน F27 ที่ใช้งานมาจนถึงวันนี้ 36 ปีแล้ว โดยกองทัพเรือการตั้งโครงการหลายครั้ง แต่ก็เลื่อนโครงการมาตลอด

ล่าสุดที่กองทัพเรือตั้งโครงการจัดหาเครื่องบินทางทะเลจำนวน 3 เครื่องคือปีงบประมาณ 2562 แต่ภายหลังกองทัพเรือได้ยื่นขอมติครม.ในการเปลี่ยนแปลงงบประมาณจากการจัดหาเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล ในงบประมาณงวดแรกจำนวน 1,284.7329 ล้านบาทไปเป็นการจัดหาอื่น 6 โครงการคือ
- โครงการจัดหาเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่สนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำ ระยะที่ 2 จำนวนเงิน 432 ล้านบาทในงวดแรก ซึ่งกองทัพเรือจัดหาเรือยกพลขึ้นบก Type-071E จากประเทศจีน
- โครงการจัดหาอาวุธปล่อยนำวิถี พื้นสู่อากาศ ระยะปานกลางแบบเคลื่อนที่ ระยะที่ 1 จำนวนเงิน 456.55 ล้านบาทในงวดแรก ซึ่งกองทัพเรือจัดหาอาวุธปล่อยจากประเทศจีน ยังไม่ทราบแบบของอาวุธ แต่คาดว่าจะเป็น HQ-19
- ซื้อร่มบุคคลโดดลงน้ำทางยุทธวิธี (กระตุกเอง) พร้อมเครื่องเปิดร่มอัตโนมัติชนิดกันน้ำของ นสร. จำนวน 164 ร่ม จำนวนเงิน 99.548 ล้านบาท ไม่ทราบว่ากี่งวด
- ซื้อร่มโดดทางยุทธวิธี แบบสายดึงประจำที่ ของ นย. จำนวน 22 ร่ม จำนวนเงิน 99.7920 ล้านบาท ไม่ทราบว่ากี่งวด
- ซื้่อระบบป้องกันพื้นที่สำคัญจากอากาศระดับต่ำของ กลน.กร. จำนวนเงิน 99.9477 ล้านบาทในงวดแรก
- ซื้อระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ ของ สอ.รฝ. จำนวนเงิน 99.8952 ล้านบาทในงวดแรก ซึ่งเป็นการจัดหาระบบ Anti Drone จากประเทศ
ซึ่งกรณีนี้ ไม่ใช่การถูกตัดลดงบประมาณจากรัฐบาล แต่เป็นการที่รัฐบาลและสภาฯให้งบประมาณมาแล้ว แต่กองทัพเรือตัดสินใจเปลี่ยนงบประมาณไปใช้อย่างอื่น แม้จะมีข้ออ้างว่าเนื่องจากการประมูลไม่ประสบความสำเร็จ แต่ถ้ากองทัพเรือจัดทำเอกสารและวางแผนการประมูลให้รัดกุมกว่านี้ ก็เชื่อว่าน่าจะผ่านไปได้

ทั้งนี้ หลังจากกองทัพเรือยกเลิกการจัดหาเครื่องบินในปี 2562 และนำงบประมาณไปใช้ในโครงการอื่นนั้น กองทัพเรือได้วางแผนที่จะตั้งโครงการจัดหาเครื่องบินใหม่ในปีงบประมาณ 2564 ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของกรรมมาธิการงบประมาณ สภาผู้แทนราษฏร และแม้ว่าสภาฯจะอนุมัติให้กองทัพเรือจัดหา ก็ยังไม่แน่ว่าจะได้จัดหาจริงหรือไม่ เนื่องจากกองทัพเรืออาจยกเลิกโครงการอีกครั้ง
เราจึงอยากเรียกร้องให้กองทัพเรือให้ความสำคัญกับเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล ที่มีความสำคัญต่อทั้งงานด้านยุทธการและงานด้านการช่วยเหลือประชาชนชัดเจนกว่าเรือยกพลขึ้นบก อาวุธปล่อยต่อสู้อากาศยาน หรือระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ และที่สำคัญ ส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยในชีวิตของกำลังพล ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่า อายุของอากาศยานที่ 36 ปี เริ่มส่งผลต่อความปลอดภัยในการบิน และแม้ถ้ามีการจัดหาได้สำเร็จในปี 2564 กว่ากองทัพเรือจะได้รับมอบอากาศยานใหม่และอากาศยานใหม่พร้อมปฏิบัติงาน ก็ต้องรออีกหลายปี ซึ่ง F27 จะมีอายุมากกว่า 40 ปีก่อนที่จะปลดประจำการ
เราขอเรียกร้องอีกครั้งให้กองทัพเรือให้ความสำคัญกับการจัดลำดับโครงการครับ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุบัติเหตุของ F27 และความสำคัญของเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลได้ที่
https://thaiarmedforce.com/2020/08/11/f-27-rtn-crash-landing-in-narathiwat/
ดูคลิปการร่อนลงจอดของ F27 ได้ที่