จีนส่งเครื่องบินรุก ไต้หวัน – เรือบรรทุกเครื่องบิน สหรัฐ ใน ทะเลจีนใต้ น่าจะบังเอิญมากกว่าต้อนรับไบเดน

เมื่อวานนี้มีข่าวว่าจีนได้ส่งหมู่บินรุกล้ำน่านฟ้าไต้หวันจำนวน 13 ลำ เพื่อตอบโต้และทดสอบประธานาธิบดีไบเดนซึ่งเพิ่งรับตำแหน่งใหม่ ประกอบกับวันนี้มีข่าวว่าสหรัฐส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Theodore Roosevelt ซึ่งคาดว่าจะเพื่อรับมือการส่งเครื่องบินของจีนเข้ามายังน่านฟ้าไต้หวัน เลยมีการวิเคราะห์กันว่า จีนต้องการเพิ่มแรงกดดันให้ไบเดน หรือไบเดนต้องการแสดงกำลังเพื่อกดดันจีน

แต่เรามองว่ามันน่าจะเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ ที่บังเอิญเกิดขึ้นเป็นปกติ จนทำให้มันดูเหมือนไม่ปกติมากกว่า ไม่ใช่เพราะว่าต้องการกดดันหรือตอบโต้กรณีใด ๆ เป็นการเฉพาะ ด้วยเหตุผลคือ


  1. ถ้าใครไปกดติดตามทวิตเตอร์ของกระทรวงกลาโหม #ไต้หวัน นั้น จะพบรายงานแบบแทบจะวันเว้นวันมานานแล้วเกี่ยวกับเครื่องบินจีนที่บินรุกล้ำน่านฟ้าไต้หวัน ซึ่งก็มีจำนวนแตกต่างกันไปแล้วแต่ภารกิจ การรุกล้ำ 13 ลำก็ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดขึ้นครั้งแรก แต่เกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว ในช่วงที่จีนมีการเคลื่อนย้ายกำลังหรือมีการฝึกในพื้นที่

ในรอบนี้ รายงานของกระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า #จีน ส่งเครื่องบิน 13 ลำเข้ามายังน่านฟ้าในทางตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวัน ซึ่งเป็นตำแหน่งและทิศทางเดิมที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ และส่วนใหญ่ก็จะเป็นทิศทางนี้ โดยคาดว่าเส้นทางนี้คือเส้นทางบินเดินทางของกองทัพจีนนั้นเอง โดย 13 ลำในครั้งนี้ประกอบไปด้วยเครื่องบินปราบเรือดำน้ำ Y-8 จำนวน 1 ลำ เครื่องบินทิ้งระเบิด H-6K จำนวน 8 ลำ และเครื่องบินขับไล่ J-16 อีก 4 ลำ ซึ่งดูการจัดกำลังแล้ว น่าจะเป็นการจัดกำลังเพื่อบินเดินทางไปยังเกาะเทียมของจีนในทะเลจีนใต้มากกว่า

รายงานการล้ำน่านฟ้าของเครื่องบินจีน โดยกระทรวงกลาโหมไต้หวัน

ทั้งนี้ จีนถือว่าไต้หวันคือส่วนหนึ่งของจีน ดังนั้นน่านฟ้าไต้หวันทั้งหมดก็คือน่านฟ้าจีน จีนจะบินไปตรงไหนก็ได้ แต่สำหรับไต้หวัน ถือว่าไต้หวันคือประเทศเอกราช น่านฟ้าของไต้หวันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของจีน ดังนั้นจีนเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตไม่ได้ ซึ่งก็เป็นมุมมองที่แตกต่างกันตามปกติของประเทศที่ขัดแย้งกันเรื่องดินแดน

เราเห็นว่าการล้ำน่านฟ้าของจีนรอบนี้ก็เกิดขึ้นในตำแหน่งเดิมที่เคยเกิดขึ้นกว่า 90% ของการบินของจีน และจีนทำอย่างนี้มาหลายเดือนแล้ว โดยเฉพาะช่วงปี 2019-2020 ที่สหรัฐกับจีนขัดแย้งกันรุนแรงทั้งเรื่องสงครามการค้า เรื่องการขายอาวุธให้ไต้หวัน และเรื่องโควิด-19

เมื่อดูการจัดหมู่บิน ทิศทางการบิน และแนวโน้ม แม้ว่ามันจะไม่ได้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ปกติ แต่คิดว่า มันคือเหตุการณ์ไม่ปกติที่เกิดขึ้นเป็นปกติมาปีกว่าแล้ว

หมายเหตุ: รายงานการรุกล้ำน่านฟ้าของเครื่องบินจีน โดยกระทรวงกลาโหมไต้หวัน


  1. ในอีกด้าน เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Theodore Roosevelt ที่มีข่าวว่า #สหรัฐ ส่งเข้าพื้นที่เพื่อตอบโต้จีนนั้น จริง ๆ แล้วเรือลำนี้เข้ามาวางกำลังในเอเชียตามกำหนดการตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา และเริ่มเดินทางเข้าสู่ทะเลจีนใต้หลายวันก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์เครื่องบิน 13 ลำของจีนรุกล้ำน่านฟ้าไต้หวัน แค่หมู่เรือมาถึงทะเลจีนใต้ในช่วงเวลาเดียวกันพอดี จังหวะและเวลามันพอดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น ไม่น่าจะเพื่อตอบโต้เหตุการณ์นี้โดยเฉพาะ เพราะเรือต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะถึงทะเลจีนใต้ และจริง ๆ ดูเหมือนเรือ USS Theodore Roosevelt มาถึงทะเลจีนใต้ก่อนหมู่บินนี้ของจีนจะทำการรุกล้ำน่านฟ้าไต้หวันด้วยซ้ำ

ซึ่งสหรัฐมีการส่งเรือและอากาศยานเข้าไปในทะเลจีนใต้ทุกเดือนมาหลายปีแล้ว เพื่อยืนยันว่าทะเลจีนใต้ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าถึงสองในสามของการค้าโลกนั้นจะเป็นทะเลเปิดที่ทุกคนสามารถเดินทางเข้าออกได้ตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเลหรือ #UNCLOS 1982 ซึ่งแตกต่างจากจีนที่อ้างสิทธิ์ในการควบคุมทะเลจีนใต้ทั้งหมด โดยบอกว่าทะเลจีนใต้เป็นทะเลอาณาเขตของจีนทั้งหมด และจีนต้องมีสิทธิ์ในการควบคุมและดูแล รวมถึงอนุญาตว่าเรือหรืออากาศยานลำใดจะผ่านเข้าออกได้ ซึ่งจุดยืนนี้ถูกคัดค้านโดยสหรัฐ ประเทศมหาอำนาจ และชาติอาเซียนที่มีข้อขัดแย้งกับจีน

#USNavy aircraft from Carrier Air Wing #CVW11 launch and land aboard #USSTheodoreRoosevelt as #CVN71 continued operations in the Western Pacific this week. #FlyNavy #FreeandOpenIndoPacific

เมื่อดูกำหนดการ และการวางกำลังของสหรัฐ แม้ว่ามันจะไม่ได้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ปกติ แต่คิดว่า มันคือเหตุการณ์ไม่ปกติที่เกิดขึ้นเป็นปกติมาหลายปีแล้ว

หมายเหตุ: ข่าวการเดินทางผ่านทะเลจีนใต้ของเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐ


  1. ดังนั้นสรุปทั้งหมดคือ ถ้าเราจะตีความว่าการที่จีนส่งเครื่องบินล้ำน่านฟ้าไต้หวันหรือการที่สหรัฐส่งเรือเข้าสู่ทะเลจีนใต้จะเป็นการตอบโต้หรือท้าทายไบเดนโดยตรงนั้น น่าจะเป็นการสรุปที่มากเกินกว่าเหตุ กลับกันเรามองว่านี่คือเหตุการณ์ไม่ปกติที่เกิดขึ้นจนเป็นปกติ

สิ่งที่ท้าทายไบเดนมากกว่า น่าจะเป็นการพิจารณาารกระชับความสัมพันธ์กับไต้หวัน รวมถึงการจัดการสงครามการค้าของสหรัฐกับจีน รวมถึงบทบาทของสหรัฐในการรวบรวมพันธมิตรกลับเข้ามาเป็นกลุ่มก้อนอีกครั้งมากกว่าครับ

สำหรับท่านที่สนใจประเด็นนี้ สามารถร่วมพูดคุยได้ที่โพสของคุณ Sittisede Polwiang สมาชิกในกลุ่มของเราที่

https://www.facebook.com/groups/thaiarmedforce/permalink/2877047422539929/

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.