รัฐบาลอัฟกานิสถานล่มสลาย ตาลีบันเข้าปกครองประเทศ

หลายร้อยปีที่ผ่านมา นี่เป็นอีกครั้งที่กรุงคาบูลเปลี่ยนมือผู้ปกครอง ในครั้งนี้กลับเป็นผู้ปกครองที่คุ้นเคยคือกลุ่มตาลีบัน แม้ว่าจะมีความพยายามของสหรัฐในการขอให้ตาลีบันยับยั้งการเข้ายึดกรุงคาบูลไว้ก่อน แต่การที่ประธานาธิบดีอัฟกานิสถานหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ทำให้กลุ่มตาลีบันตัดสินใจสั่งให้นักรบเข้ากรุงคาบูลและผู้นำของตาลีบันเข้าสู่ทำเนียบประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน และชักธงตาลีบันขึ้นสู่ยอดเสาในที่สุด

สถานทูตชาติตะวันตกหลายแห่ง รวมถึงสหรัฐ แคนาดา และเยรอมนีต่างอพยพเจ้าหน้าที่ทางการทูตออกไปหมดแล้ว ส่วนรัสเซียยืนยันว่าจะไม่อพยพทูตออกจากอัฟกานิสถาน และจะเจรจากับกลุ่มตาลีบันให้รับรองความปลอดภัยของทูตของตน ทางด้านตาลีบันได้ออกมายืนยันว่าเจ้าหน้าที่การทูตของต่างชาติไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร และจะได้รับการคุ้มครองดูแลเป็นอย่างดี

ที่ท่าอากาศยานกรุงคาบูล มีประชาชนจำนวนมากที่ต้องการอพยพออกนอกประเทศมารอที่ท่าอากาศยาน โดยแถลงการณ์ร่วมของกว่า 60 ประเทศทั่วโลก (ไม่มีประเทศไทย) ออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายรับรองความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ต้องการอพยพออกจากอัฟกานิสถาน ในขณะที่ตาลีบันต้องการให้ประชาชนชาวอัฟกานิสถานอยู่ช่วยกันพัฒนาประเทศหลังจากจบสงครามในรอบนี้

---

ตาลีบันเอาชนะได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่เดือน โดยมีการวิเคราะห์กันว่ากองทัพอัฟกานิสถานขาดเสถียรภาพ มีปัญหาการคอร์รัปชั่นสูงและการหนีทัพสูง ในหลายพื้นที่เมื่อสถานการณ์โน้มเอียงไปยังทิศทางที่ว่าตาลีบันจะสามารถเอาชนะได้ กองทัพอัฟกานิสถานก็ขอยอมแพ้หรือหนีทัพออกไป

ตอนนี้ตาลีบันกำลังจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งโฆษกตาลีบันกล่าวว่าจะมีคนจากนอกกลุ่มตาลีบันเข้ามาร่วมรัฐบาลด้วย ถือเป็นความพยายามในการสร้างเสถียรภาพของรัฐบาลอัฟกานิสถาน และประกาศว่าทหารของกองทัพอัฟกานิสถานที่มอบอาวุธและขอเข้าร่วมกับตาลีบันจะได้รับการอภัยโทษ ซึ่งตาลีบันเข้าควบคุมฐานทัพของกองทัพอัฟกานิสถานไว้ทั้งหมดแล้ว โดยปรากฏภาพของนักรบตาลีบันกับอาวุธที่ทันสมัยอย่างเฮลิคอปเตอร์โจมตีหรือเครื่องบินโจมตีของกองทัพอัฟกานิสถานเมื่อไม่กี่วันก่อน

คาดว่าประธานาธิบดีคนใหมของอัฟกานิสถานจะเป็นนายมุลลาห์ อับดุล กานี บาราดาร์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในสมัยแรกที่ตาลีบันปกครองประเทศ หลังจากตาลีบันล่มสลาย บาราดอร์ก็ยังเคลื่อนไหวต่อต้านสหรัฐ ทำสงครามกับ ISIS และถูกจับกุมตัวได้โดยทางการปากีสถานก่อนถูกปล่อยตัวในปี 2018 และได้กลายมาเป็นผู้นำกลุ่มตาลีบันที่เป็นตัวแทนเจรจาสันติภาพและลงนามข้อตกลงสันติภาพกับสหรัฐในที่สุด

นอกจากนั้น กองทัพสหรัฐประกาศว่าจะเข้าควบคุมการจัดการจราจรทางอากาศในท่าอากาศยานกรุงคาบูลเพื่อรับมือกับเที่ยวบินจำนวนมากที่เกิดขึ้นจากการอพยพทั้งชาวอเมริกัน ชาติตะวันตก และชาวอัฟกานิสถานที่ทำงานให้กับชาติตะวันตกออกจากอัฟกานิสถาน โดยนอกจากชาวอัฟกานิสถานจำนวน 2 พันคนที่อพยพไปยังสหรัฐอเมริกาแล้ว สหรัฐอเมริกากำลังทำข้อตกลงกับการ์ตาเพื่อให้ที่พักพิงชั่วคราวแก่ชาวอัฟกานิสถานและครอบครัวที่ทำงานให้ชาติตะวันตกในการ์ตาร์ด้วย

ตอนนี้สหรัฐมีทหารในอัฟกานิสถาน 3 พันนาย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐได้อนุมัติให้ส่งทหารเข้าไปอีก 1 พันนายจากกองพลส่งทางอากาศที่ 82 ที่เดินทางเข้าไปจากคูเวตเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในท่าอากาศยานคาบูลร่วมกับกองทัพตุรกี และแจ้งเตือนกลุ่มตาลีบันว่าการพยายามโจมตีกองกำลังของสหรัฐจะได้รับการตอบโต้อย่างรุนแรง แต่แม้ว่าจะมีเหตุการณ์เล็กน้อยรอบ ๆ ท่าอากาศยาน ณ ตอนนี้ยังไม่มีการโจมตีต่อทหารสหรัฐแต่อย่างใด โดยสหรัฐกำลังเพิ่มขีดความสามารถในการอพยพคนออกจากอัฟกานิสถานให้ได้ถึง 5 พันคนต่อวัน

---

การล่มสลายของรัฐบาลอัฟกานิสถานในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของสหรัฐและชาติตะวันตกในการจัดตั้งรัฐบาลที่ตนเองสนับสนุนและมีเสถียรภาพ ซึ่งเสมือนฉายภาพซ้ำความล้มเหลวของโซเวียตในการพยายามจัดตั้งรัฐบาลที่ตนเองสนับสนุน และยังเป็นการตอบย้ำว่าอัฟกานิสถานคือสนามรบปราบเซียน ที่เป็นหลุมศพของอาณาจักรต่าง ๆ เช่นเดิม

หลังจากนี้จะต้องจับตาว่า รัฐบาลตาลีบันจะมีเสถียรภาพหรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนและสิทธิสตรี ที่ต้องไม่ปฎิเสธว่าตาลีบันบิดเบือนคำสอนของศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะการละเมิดสิทธิสตรี การสั่งห้ามไม่ให้สตรีทำงานหรือเรียนหนังสือ การแบนสื่อบันเทิงต่าง ๆ

รวมถึงตาลีบันจะสามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับสหรัฐ รัสเซีย และจีนว่าจะยกเลิกการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายได้สำเร็จหรือไม่ รวมถึงบทบาทของจีนที่ตาลีบันต้องการให้จีนเข้ามาลงทุนในอัฟกานิสถานว่ามีมากน้อยแค่ไหน และจีนจะมีบทบาทในการสนับสนุนตาลีบันอย่างไรในเวทีโลกต่อไป

โพสนี้ในเพจของเรา