รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ยืนยันหลังจากเสร็จสิ้นการเจรจากับนายดิมิโทร คูเลบาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครนที่ตุรกีว่า รัสเซียไม่ได้บุกโจมตียูเครน
เขายังยืนยันอีกว่ารัสเซียไม่มีแผนจะรุกรานประเทศอื่น และสถานการณ์ในยูเครนนั้นเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อรัสเซีย แต่บอกว่าประธานาธิบดีปูตินยินดีที่จะพูดคุยกับประธานาธิบดีเซเลนสกี้ของยูเครนในประเด็นเฉพาะบางประเด็น
ลาฟรอฟกล่าวเพิ่มเติมว่าสหรัฐร่วมมือกับยูเครนในการเปิดห้องปฏิบัติการเพื่อพัฒนาอาวุธชีวภาพที่อาจใช้กับรัสเซีย และการให้ความช่วยเหลือด้านอาวุธของประเทศตะวันตกต่อยูเครนนั้นเป็นการกระทำที่อันตราย เขายังยืนยันอีกว่าปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซียเป็นไปเพื่อป้องกันดินแดนโดเน็กส์และลูฮานส์ รวมถึงเพื่อกำจัดกลุ่มนาซีในยูเครน
นอกจากนั้นเขายังยืนยันอีกว่าข้อกล่าวที่ว่ารัสเซียโจมตีโรงพยาบาลแม่และเด็กนั้นเป็นการโวยวายที่น่าสมเพชของยูเครน ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรก โดยกล่าวว่าอาคารนั้นได้ถูกกลุ่ม Azov ยึดครองไปนานแล้ว และไม่มีหญิงตั้งครรภ์อยู่ในอาคารนั้น
ในอีกด้านหนึ่ง นายดิมิโทร คูเลบาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครนกล่าวว่าการเจรจาในครั้งนี้ไม่มีความก้าวหน้า และบรรดาผู้นำรัสเซียดูเหมือนจะอยู่ในโลกความเป็นจริงของตัวเอง อย่างเช่นลาฟรอฟปฏิเสธกับเขาโดยตรงว่าไม่มีหญิงตังครรภ์อยู่ในโรงพยาบาลที่ถูกรัสเซียโจมตี และบอกว่ารูปที่ปรากฏตามที่ต่าง ๆ กันเป็นรูปปลอม
คูเลบาร์เสนอให้รัสเซียหยุดยิง 24 ชั่วโมงเพื่ออพยพพลเรือนออกจากเมืองที่ถูกล้อมระดมยิงอยู่ในขณะนี้ แต่กล่าวว่าดูเหมือนลาฟรอฟจะมาแค่พูดเท่านั้น ไม่มีอำนาจตัดสินใจ แต่ลาฟรอฟสัญญากับเขาว่าจะนำข้อเสนอไปพูดคุยกับรัฐบาลรัสเซียต่อไป
คูเลบาร์ยังกล่าวต่อว่ารัสเซียยังคาดหวังให้ยูเครนยอมแพ้และยอมรับเงื่อนไขที่รัสเซียตั้งไว้ แต่ยูเครนยืนยันว่าจะยังป้องกันตนเองและไม่ต้องการเสียดินแดนให้กับรัสเซีย
นี่เป็นครั้งแรกที่มีการเจรจาในระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครนและรัสเซีย โดยมีตุรกีเป็นตัวกลางจัดการเจรจา การเจรจาดำเนินไปโดยใช้เวลาเพียง 1.30 ชั่วโมงโดยไร้ข้อสรุป แต่ทั้งสองฝ่ายคาดว่าจะเปิดการเจรจาต่อไปในอนาคต