สภาคองเกรสผ่านร่างงบประมาณรายจ่ายของรัฐ ซึ่งรวมถึงงบประมาณสำหรับให้การช่วยเหลือยูเครนจำนวน 13.8 พัน้ลานเหรียญหรือ 4.4 แสนล้านบาท
งบประมาณจำนวนนี้มีทั้งการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการช่วยเหลือทางทหาร โดยงบประมาณจะใช้ในการจัดหาอาหาร ยา ที่พัก และเครื่องใช้ต่าง ๆ สำหรับผู้ลี้ภัยสงครามชาวยูเครนกว่าสองล้านคนเป็นจำนวนเงิน 6.5 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือ 2.14 แสนล้านบาท
นอกจากนั้นยังรวมถึงงบประมาณในการวางกำลังทหารสหรัฐในชายแดน NATO ด้านตะวันออก และการจัดหาอาวุธเพื่อส่งมอบให้กับกองทัพยูเครนใช้ในการป้องกันตนเองจากรัสเซียอีก 6.7 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือ 2.2 แสนล้านบาท
ซึ่งนี่อาจเป็นการช่วยเหลือจากสภาคองเกรสในล็อตแรกเท่านั้น โดยประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ แนนซี่ เปโลซี่กล่าวว่านี่จะเป็นการเริ่มต้นของการช่วยเหลือครั้งใหญ่ต่อยูเครน ซึ่งอาจเวลาหลายปี
ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐได้ส่งมอบอาวุธและยุทโธปกรณ์ให้กับยูเครนแล้วเป็นมูลค่ากว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือ 3.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่คือการส่งมอบอาวุธเช่นจรวดต่อสู้รถถังและจรวดต่อสู้อากาศยานประทับบ่าให้กับยูเครน ซึ่งอาวุธเหล่านี้มีผลงานในการทำลายยานเกราะของรัสเซียได้ราว 500 คัน และอากาศยานอีกหลายสิบเครื่อง
ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่าพร้อมจะส่งมอบอาวุธและความช่วยเหลือให้ยูเครนมากขึ้น โดยกล่าวว่า “เราจะทำให้แน่ใจว่ายูเครนจะได้รับอาวุธมากพอจะป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย เราจะส่งเงินและอาหารเพื่อช่วยเหลือชาวยูเครนด้วย”
หลังจากที่ไม่ประสบความสำเร็จในการหาข้อสรุปเพื่อส่งเครื่องบินขับไล่ให้กับยูเครน ตอนนี้มีผู้เสนอแนวคิดที่จะส่งมอบจรวดต่อสู้อากาศยานที่ผลิตในโซเวียตซึ่งยังประจำการอยู่ในบางประเทศของ NATO ให้กับยูเครนแทน
อย่างไรก็ตาม วุฒิสมาชิกของสหรัฐกว่า 40 คนลงชื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดีไบเดนเปลี่ยนใจและส่งเครื่องบินขับไล่ MiG-29 ให้กับยูเครนอย่างเร่งด่วน หลังจากที่รัสเซียโจมตีโรงพยาบาลแม่และเด็กของยูเครน ซึ่งที่ผ่านมาทำเนียบขาวเกรงว่าการส่งเครื่องบินขับไล่ MiG-29 จะเป็นการขยายขอบเขตสงครามออกไป
โพสนี้ในเพจของเรา