เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา ที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติได้พิจารณามติผลกระทบด้านมนุษยธรรมของการรุกรานยูเครน (Humanitarian consequences of the aggression against Ukraine) ที่เสนอโดยยูเครนและอีก 90 ชาติให้ที่ประชุมใหญ่พิจารณา และได้รับการลงคะแนนสนับสนุน 140 เสียง คัดค้าน 5 เสียง คือ รัสเซีย ซีเรีย เกาหลีเหนือ เอริเทรีย และเบลารุส และงดออกเสียง 38 เสียง ในขณะเดียวกันก็ลงมติตีตกร่างญัตติที่เสนอโดยแอฟริกาใต้ที่รัสเซียสนับสนุน
มตินี้ได้รับการสนับสนุนเช่นเดียวกับมติเมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ประณามการบุยูเครนของรัสเซีย และเรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังออกจากยูเครน

มตินี้เรียกร้องให้มีการเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังยูเครน เปิดทางให้มีเส้นทางด้านมนุษยธรรมหรือ Humanitarian corridor เรียกร้องให้มีการหยุดการสู้รบและถอนกำลังออก รวมถึงกล่าวว่ารัสเซียสร้างสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เลวร้าย
สำหรับประเทศอาเซียนที่ลงมติสนับสนุนคือกัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และ ไทย ในขณะที่ลาว บรูไน และเวียดนามงดออกเสียง
ผู้แทนไทยประจำสหประชาชาติได้กล่าวว่า ไทยขอสนับสนุนญัตตินี้เพราะความสำคัญสูงสุดในการปกป้องพลเรือน ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมและบุคคลที่ตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยง ไทยขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศด้านมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน เพื่อป้องกันพลเรือนและทรัพย์สินของพลเรือนและเพื่อส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยไม่ชักช้าและไม่เลือกปฏิบัติหรือกีดกันทางการเมือง และขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านของยูเครนและประเทศอื่น ๆ ส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับผู้ที่ต้องการ และเสริมว่าประเทศไทยได้ส่งอาหาร ยา และสิ่งของที่จำเป็นไปให้พลเรือนที่ได้รับผลกระทบผ่านหน่วยงานกาชาดของยูเครนแล้ว