พบคราบน้ำมันลอยในทะเล แต่ยังไม่มีใครพบสัญญาณจากเรือดำน้ำอินโดนีเซียที่หายไป

เป็นเวลามากกว่า 24 ชั่วโมงแล้วที่เรือดำน้ำ KRI Nanggara ไม่ขึ้นมาส่งสัญญาณติดต่อตามที่นัดหมาย และยังติดต่อหรือระบุตำแหน่งไม่ได้ ในขณะที่การค้นหาในวันนี้มุ่งความสนใจไปที่คราบน้ำมันในบริเวณใกล้ ๆ จุดที่คาดว่าจะเป็นตำแหน่งสุดท้ายของเรือ KRI Nanggara

กองทัพเรืออินโดนีเซียแถลงว่า ในระหว่างที่เรือกำลังดำในความลึกปกตินั้นการเกิดปัญหากับระบบควบคุมเรือและคาดว่าเรือน่าจะจมลงสู่ก้นทะเลที่ความลึกราว 700 เมตร ซึ่งคราบน้ำมันที่พบอาจเป็นไปได้ว่า ซึ่งถ้าคราบน้ำมันดังกล่าวมาจากเรือ KRI Nanggara จริง ก็อาจเป็นไปได้ว่าตัวเรือมีการแตกออก ซึ่งอาจลดความหวังของการพบผู้รอดชีวิตลงไปอีก หรืออาจจะเป็นสัญญาณจากลูกเรือก็เป็นได้

ทั้งนี้เรือ KRI Nanggara สามารถดำน้ำได้ลึกที่สุดเพียง 250 เมตรเท่านั้น

กองทัพเรืออินโดนีเซียเปิดเผยเพิ่มเติมว่าการติดต่อกับเรือ KRI Nanggara เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อเวลา 4.30 น. ของวันที่ 21 เมษายน หลังจากเรือ KRI Nanggara ขออนุญาตดำน้ำลงในเวลา 3.00 น. โดยบนเรือมีลูกเรือทั้งหมด 53 คน แบ่งเป็นกำลังพลของเรือ 49 คน ผู้บังคับการเรือ 1 คน และมีเจ้าหน้าที่สรรพาวุธอีก 3 คนเดินทางไปกับเรือด้วย ซึ่งตอนนี้กองทัพเรืออินโดนีเซียใช้เรือทั้งหมด 5 ลำและเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำในการค้นหา

---

อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์ และมาเลเซียได้ตอบรับคำร้องขอของอินโดนีเซียในการส่งเรือกู้ภัยเรือดำน้ำเข้าสู่พื้นที่ที่คาดว่าจะเป็นพื้นที่ที่เรือดำน้ำ KRI Nanggara จมอยู่ โดยหวังว่าถ้าสามารถค้นพบเรือดำน้ำได้เร็ว ก็อาจจะมีความหวังที่จะช่วยผู้รอดชีวิตได้

ทั้งนี้ อินโดนีเซียไม่มีเรือกู้ภัยเรือดำน้ำใช้งานในกองทัพเรือ

คาดว่าเรือ MV Swift Rescue ของกองทัพเรือสิงคโปร์จะเดินทางถึงพื้นที่เป้าหมายในวันที่ 24 เมษายนนี้ โดย MV Swift Rescue ของกองทัพเรือสิงคโปร์ออกเดินทางภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากได้รับแจ้งเหตุจากอินโดนีเซีย ซึ่งนอกจากทีมกู้ภัยและเรือดำน้ำกู้ภัยหรือ Deep-Submergence Rescue Vessel (DSVR) แล้ว สิงคโปร์ยังส่งทีมแพทย์ไปกับเรือด้วยในกรณีที่ผู้รอดชีวิตต้องการการดูแลทางการแพทย์ฉุกเฉิน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสิงคโปร์กล่าวว่าเนื่องจากพื้นที่เป้าหมายอยู่ห่างจากสิงคโปร์ 1,500 กิโลเมตรและเป็นทะเลน้ำลึก เรือจึงออกเดินทางโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ …. สิงคโปร์มีความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นกับอินโดนีเซีย ซึ่งสร้างขึ้นจากการฝึกร่วมและการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในทุกระดับมาเป็นเวลานาน ดังนั้นเป็นเรื่องที่สิงคโปร์จะต้องให้ความช่วยเหลืออินโดนีเซียในเหตุการณ์ลักษณะนี้

ส่วนเรือกู้ภัยเรือดำน้ำ MV Mega Bakti ของมาเลเซียนั้นคาดว่าจะเดินทางถึงพื้นที่เป้าหมายในช่วงเย็นของวันที่ 25 เมษายนนี้ ในส่วนของออสเตรเลียนั้นยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการส่งความช่วยเหลือในลักษณะใด แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของออสเตรเลียยืนยันว่ากำลังส่งความช่วยเหลือเข้าพื้นที่เป้าหมายโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งกองทัพเรือออสเตรเลียมีสัญญาในการกู้ภัยเรือดำน้ำกับบริษัท James Fisher Defence ซึ่งใช้ยานกู้ภัยใต้น้ำแบบ LR5 ในการปฏิบัติงาน นอกจากนั้นสหรัฐอเมริกา เยอรมนี รัสเซีย อินเดีย ตุรกี และฝรั่งเศสก็เสนอความช่วยเหลือให้อินโดนีเซียเช่นเดียวกัน